โดย admin | Jun 14, 2015 | บทความ
ในท้องตลาดทุกวันนี้ มีผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ จำนวนมาก ของจริงดีแท้มีแน่ แต่ของแย่ๆ โฆษณาแอบอ้างเกินจริงแต่งเติมปลอมปนสารต้องห้าม ไม่ก็สารเคมีก็แยะ แล้วผู้บริโภคจะรู้ได้อย่างไรละ? 5 เหตุผลที่ช่วยให้การตัดสินใจได้ถูกต้องและมั่นใจขึ้น 1. ผลิตภัณฑ์ผ่านการวัจัยค้นคว้าจากสถาบัน / องค์กรเป็นที่ยอมรับ 2. ผลิตภัณฑ์ผ่านการตรวจวิเคราะห์ จากสถาบันที่เชื่อถือได้ 3. ผลิตและจำหน่ายโดยบริษัท หรือ องค์กร ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีตรง 4. ได้รับเครื่องหมายรับรองถูกต้อง 5. ตรวจสอบฉลากบอกรายละเอียดครบถ้วน ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยบริษัท ปกธนพัฒน์ จำกัด คูเน่ ผงปรุงครบรสซองสีแดง สูตรธรรมดา คูเน่ ผงปรุงครบรสซองสีขาว สูตรโซเดียมต่ำ คูเน่ F&F เสริมอาหารควบคุมน้ำหนัก ผลงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมผ่านการตรวจวิเคราะห์จากสถาบันอาหาร และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ภายใต้มาตรฐานการผลิต GMP ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ หนึ่งในผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ คูเน่ จากเดิมคุณป้าและคุณลูกหาซื้อที่ห้างฯ มาใช้แล้วถูกใจ เป็นลูกค้าประจำ เลือกทำเมนูอาหารสุขภาพมากมาย จนวันนี้ต้องสั่งซื้อจำนวนมาก มีโอกาสได้พูดคุยกันถึงบางอ้อ คุณป้า อายุปัจจุบัน 76 คุณลูก 54 ทุกคนกระฉับกระเฉง สุขภาพดียิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดี ดูภาพไม่เชื่อสายตาขออนุญาตดูบัตรประจำตัวประชาชน ผิวหนังร่องรอยมีน้อยมากสุขภาพดีจริงๆ คุณน้าครับ www.ptpfoods.com www.facebook.com/kuunepage Line id : OatEcho คมชาญ 086-791 7007...
โดย admin | Jun 14, 2015 | บทความ
สุขภาพ เป็นพื้นฐานสำคัญในการดำรงชีวิต… “สุขภาพ” ตามคำนิยามขององค์การอนามัยโลก หมายถึง ความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกาย จิตใจ สังคม และ จิตวิญญาณ ซึ่งความสมบูรณ์ของร่างกายคือการที่ร่างกายของเรามีความแข็งแรง คล่องแคล่ว ไม่เป็นโรค และไม่พิการ ความสมบูรณ์ทางจิตคือ การที่เรามีจิตใจที่เป็นสุข ร่าเริง มีสติ ความสมบูรณ์ทางสังคมคือ การอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดี มีครอบครัวที่อบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง และความสมบูรณ์ทางจิตวิญญาณเกิดขึ้นเมื่อเราทำความดี เช่น รู้จักการเสียสละ มีความเมตตากรุณา เป็นต้น สุขภาพที่ดีจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุกคน ผู้ ที่มีสุขภาพดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มความสามารถ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ควรจะดูแลรักษาสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ ร่างกายเจริญเติบโตและมีพัฒนาการอย่างสมวัย เรียนรู้และเข้าใจ สุขศึกษาและพลศึกษา สุขศึกษา และพลศึกษา เป็นการศึกษาด้านสุขภาพสู่การมีสุขภาพดี อันมีเป้าหมายเพื่อการดำรงสุขภาพ การสร้างเสริมสุขภาพและการพัฒนา คุณภาพชีวิต ของบุคคล ครอบครัว และชุมชนให้ยั่งยืน สุขศึกษา มุ่งเน้นให้ผู้เรียนพัฒนาพฤติกรรม ด้านความรู้ เจตคติ คุณธรรม ค่านิยม และการปฏิบัติเกี่ยวกับสุขภาพควบคู่ไปด้วยกัน พลศึกษา มุ่งเน้นให้ผู้เรียนใช้กิจกรรมการเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกมและกีฬาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาโดยรวม ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญา รวมทั้งสมรรถภาพเพื่อสุขภาพและกีฬา โดยมีสาระในการเรียนรู้ 5 กลุ่ม คือ การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติของ การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโต ความสัมพันธ์เชื่อมโยงในการทำงานของระบบต่างๆของร่างกาย รวมถึงวิธีปฏิบัติตนเพื่อให้เจริญเติบโตและมีพัฒนาการที่สมวัย ชีวิตและครอบครัว เป็นการเรียนรู้เรื่องคุณค่าของตนเองและครอบครัว การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ความรู้สึกทางเพศ การสร้างและรักษาสัมพันธภาพกับผู้อื่น สุขปฏิบัติทางเพศ และทักษะในการดำเนินชีวิต การ เคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล เป็นการเรียนรู้เรื่องการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ การเข้าร่วมกิจกรรมทางกายและกีฬา ทั้งประเภทบุคคล และประเภททีมอย่างหลากหลายทั้งไทยและสากล การปฏิบัติตามกฎ กติกา ระเบียบ และข้อตกลงในการเข้าร่วมกิจกรรมทางกายและกีฬา และความมีน้ำใจนักกีฬา การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับหลักและวิธีการเลือกบริโภคอาหาร ผลิตภัณฑ์และบริการสุขภาพ การสร้างเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ และการป้องกันโรค ทั้งโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ความปลอดภัยในชีวิต นักเรียนจะได้เรียนรู้เรื่องการป้องกันตนเองจากพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ทั้งความเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ ความรุนแรง อันตรายจากการใช้ยาและสารเสพติด รวมถึงแนวทางในการสร้างเสริมความปลอดภัยในชีวิต ที่มา : http://healthykid.moph.go.th/index.php/2013-05-21-07-22-50 สุขภาพกับคุณภาพชีวิต โดย อาจารย์อรวรรณ น้อยวัฒน์ ประเทศ ไทยมีเป้าหมายทางการแพทย์และการสาธารณสุขที่สำคัญประกอบด้วย 2 ส่วน คือ การมีอายุยืนยาวและการมีคุณภาพชีวิตที่ดี การที่ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรงในทุกช่วงวัยทำให้มีอายุยืนยาวเมื่อเข้าสู่ วัยผู้สูงอายุ ซึ่งการมีอายุยืนยาวไม่เจ็บป่วยเป็นโรค เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต เนื่องจากคุณภาพชีวิตประกอบด้วยสุขภาพในหลายด้านรวมกัน ได้แก่ สุขภาพด้านกายภาพ (physical health) สุขภาพด้านจิตใจ (mental health) สุขภาพด้านสังคม (social health) และภาวะสุขภาพโดยทั่วไป (general health) โดยองค์การอนามัยโลกได้ให้คำนิยามของ “สุขภาพ” ว่าไม่ใช่แต่เพียงการปราศจากโรค แต่หมายถึงการมีความสมบูรณ์ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม ซึ่งจะสอดคล้องกับนิยามของคุณภาพชีวิตที่กล่าวว่า “คุณภาพชีวิต” เป็นการรับรู้ความพึงพอใจและสถานะของบุคคลในการดำรงชีวิตในสังคม โดยจะสัมพันธ์กับเป้าหมายและความคาดหวังของตนเอง ภายใต้บริบทของวัฒนธรรม ค่านิยม มาตรฐานของสังคม และสิ่งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (The WHOQOL group, 1994 อ้างถึงใน วรรณา กุมารจันทร, 2543: 4) โดยทั่วไปแล้วบุคคลที่มีสุขภาพที่สมบูรณ์ประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือ 1) สุขภาพทางกาย (Physical Health) คือ มีสภาพร่างกายที่ดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และมีการพัฒนาที่เหมาะสมกับวัย สังเกตได้จากการที่บุคคลนั้นมีความสมบูรณ์แข็งแรง ระบบและอวัยวะทุกส่วนทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ ร่างกายมีสมรรถภาพสูง สามารถทำงานได้นาน ๆ โดยไม่เหนื่อยง่าย การนอนและการพักผ่อนเป็นไปตามปกติ ผิวพรรณผุดผ่อง รูปร่างทรวดทรงสมส่วน เป็นต้น 2) สุขภาพทางจิต (Mental Health) คือ มีสภาพจิตปกติ สามารถปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศของสังคมได้ทุกระดับชั้น สามารถควบคุมอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งผู้มีสุขภาพจิตดี ย่อมมีผลมาจากสุขภาพกายดีด้วย หรือคำกล่าวที่ว่า “จิตใจที่แจ่มใส ย่อมอยู่ในร่างกายที่สมบูรณ์” 3) สุขภาพทางสังคม (Social Health) คือ การมีสภาพของความเป็นอยู่หรือการดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข ไม่ทำให้ผู้อื่นหรือสังคมเดือดร้อน สามารถเข้ากับบุคคลและชุมชนได้ทุกสถานะอาชีพ ไม่เป็นคนถือตัว ไม่เป็นคนเอารัดเอาเปรียบบุคคลอื่น เป็นที่เคารพรักและเป็นที่นับถือของคนทั่วไป ส่วนคุณภาพชีวิตที่ดีนั้นประกอบด้วย 4 ด้าน คือ 1) ด้านร่างกาย ได้แก่ โครงสร้างทางร่างกายและสุขภาพร่างกาย รวมถึงด้านบุคลิกภาพด้วย 2) ด้านจิตใจ ได้แก่ สภาพจิตใจและสุขภาพจิต รวมถึงด้านคุณธรรมและจริยธรรมด้วย 3) ด้านสังคม ได้แก่ สถานะทางสังคม ยศ ตำแหน่ง เกียรติยศชื่อเสียง การยอมรับนับถือ รวมถึงการมีมนุษยสัมพันธ์กับผู้อื่นด้วย 4) ด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ สถานะทางเศรษฐกิจการเงินและรายได้ที่มั่นคง จากองค์ประกอบของชีวิตเหล่านี้ ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามลักษณะกฎของธรรมชาติ คือ มีการเกิด มีแก่ มีเจ็บ และมีการตายจากไป จึงทำให้มนุษย์เกิดความต้องการด้านต่างๆ ที่จะเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อมุ่งความสำเร็จให้แก่ตนเองสืบต่อ ไป เมื่อนำเรื่องสุขภาพมาพิจาราณาประกอบกับเรื่ององค์ประกอบของคุณภาพชีวิต แล้วจะพบว่า องค์ประกอบของการมีสุขภาพดีทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม เป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ดัง นั้น การพัฒนาตนเองเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงควรพัฒนาสุขภาพในด้านร่างกาย ได้แก่ การให้ความสำคัญกับสุขภาพ การบริโภคอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ การพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังเป็นประจำ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ การพัฒนาทางด้านอารมณ์ ได้แก่ การสร้างเสริมสุขภาพจิตที่ดี รู้จักควบคุมอารมณ์ การทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบ การเข้าร่วมกิจกรรมสันทนาการ การฝึกสมาธิ การพัฒนาทางด้านสังคม อันได้แก่ การเข้า ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ หรือจากหน่วยงานต่างๆ ที่จัดขึ้น การใช้เวลาว่างบำเพ็ญประโยชน์เพื่อชุมชน...
โดย admin | Jun 14, 2015 | บทความ
“ข้อสังเกตของการวิจัยและพัฒนา R&D” การวิจัยและพัฒนา (The Research and Development) เป็นลักษณะหนึ่งของการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) ที่ใช้กระบวนการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบ มุ่งพัฒนาทางเลือกหรือวิธีการใหม่ๆ เพื่อใช้ในการยกระดับคุณภาพงานหรือคุณภาพชีวิต ข้อสังเกตของการวิจัย R&D 1.ปัญหาการวิจัย R&D ปัญหา การวิจัยของ R&D ต้องตอบสนองความต้องการสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มี 2 ลักษณะ คือ ต้องการแก้ปัญหา ต้องการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ตัวอย่างการเขียนปัญหาวิจัย 1. สิ่งใดจะช่วยให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ดีขึ้น 2. รูปแบบใดที่สามารถพัฒนาทักษะชีวิตของนักเรียนได้ดี 3. เครื่องมือใดทำให้ผู้ป่วยมีความเจ็บน้อยลง 4 . อะไรทำให้องค์กรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5. รูปแบบใดที่เหมาะสมกับสภาพการจัดการศึกษาในปัจจุบัน 6. รูปแบบการบริหารใดที่ทำให้โรงเรียนขนาดเล็กมีประสิทธิภาพมากขึ้น รู้ไว้ใช่ว่า.. ปรัชญาของ R&D คือ Need หมายถึงความต้องการ สิ่งที่ได้จาก R&D คือ นวัตกรรม 2.การตั้งชื่อเรื่องวิจัย R&D หลักการตั้งชื่อสำหรับวิจัยและพัฒนาจะความแตกต่างจากวิจัยประเภทอื่น ๆ และมีหลักในการตั้งชื่อ ดังนี้ 1.นิยมตั้งเป็นประโยคบอกเล่า 2.มีคำว่า “พัฒนา”อยู่ช่วงต้นของประโยค 3.อาจมี หรือไม่มีคำว่า “วิจัย” อยู่ที่ชื่อเรื่องก็ได้ 4.ปัญหาที่ต้องการวิจัยอยู่ช่วงต้นของประโยค 5.กลุ่มเป้าหมายอยู่ช่วงกลางของประโยค 6. ถ้าส่วนท้ายของประโยคบ่งบอกสถานที่ งานวิจัยนั้นจะใช้ได้เฉพาะพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น แต่ถ้าไม่ได้ระบุสถานที่ จะใช้ได้ทุกที่ เป็นการเปิดกว้าง ตัวอย่างชื่อวิจัย R&D – การวิจัยและพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาในภาคกลาง – การพัฒนาระบบการสร้างสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ – การพัฒนารูปแบบการสอนทักษะชีวิตนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น รู้ไว้ใช่ว่า… ข้อสังเกตชื่อเรื่องของวิจัย R&D แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนแรก จะบ่งบอกถึงความต้องการของผู้วิจัย ส่วนที่สองจะบ่งบอก ถึงนวัตกรรมของวิจัย และส่วนสุดท้ายบ่งบอกถึงเป้าหมายว่าทำวิจัยกับใคร มีกระบวนการอย่างไร 3.การเขียนวัตถุประสงค์ของ R&D การเขียนวัตถุประสงค์ของการวิจัยและพัฒนามีหลักในการเขียนดังนี้ 1.นิยมเขียนเป็นข้อ ๆ (มากกว่า 1 ข้อ) 2.ขึ้นต้นด้วยคำว่า “เพื่อ” 3.เขียนเรียงลำดับข้อให้เป็นไปตามวิธีวิจัยที่ใช้ 4.ส่วน แรกของประโยคควรเป็นการวิจัย แล้วตามด้วยการพัฒนา การประเมินสิ่งที่ได้จากการวิจัยหรือประเมินผลการใช้นวัตกรรม และมีการขยายผลสิ่งที่ได้ ตัวอย่างการเขียนวัตถุประสงค์ของ R&D 1.เพื่อศึกษาระบบการสร้างสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ 2.เพื่อพัฒนาระบบการสร้างสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ 3.เพื่อประเมินการใช้ระบบการสร้างสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ 4.เพื่อศึกษาและขยายผลการใช้ระบบการสร้างสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ 4.ตัวแปร R&D วิธีแบ่งตัวแปรที่นิยมกันมากที่สุดคือแบ่งเป็นตามลักษณะการใช้ ดังนี้ 1 ตัวแปรต้น (Independent Variable) หมายถึงคุณลักษณะที่เกิดก่อน หรือเป็นสาเหตุของตัวแปรตาม หรืออาจจะเรียกว่า ตัวแปรอิสระ สามารถจำแนกได้เป็น 2 แบบ คือ ตัวแปรอิสระที่สามารถจัดกระทำได้ (Active Variable) และตัวแปรอิสระที่ไม่สามารถจัดกระทำได้(Attribute Variable) โดย ตัวแปรอิสระทั้ง 2 ชนิดเป็น ตัวแปรสาเหตุเช่นเดียวกัน แต่แตกต่างกัน คือตัวแปรอิสระที่ไม่สามารถจัดกระทำได้ ผู้วิจัยเป็นเพียงผู้เลือกว่ากลุ่มใดมีลักษณะอย่างไร แต่ไม่สามารถสร้างลักษณะนั้นขึ้นมา ในขณะที่ตัวแปรอิสระที่สามารถจัดกระทำได้ ผู้วิจัยสามารถสร้างลักษณะนั้นขึ้นมาได้ 2 ตัวแปรตาม (Dependent Variable) หมายถึง คุณลักษณะที่คาดว่าจะได้รับ หรือเป็นผลที่ได้รับจากตัวแปรอิสระ ตัวอย่างเช่น การวิจัยที่ศึกษาอายุของผู้สอนและสภาพของห้องเรียนว่ามีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนหรือไม่ ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ตัวแปรตามได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3 ตัวแปรที่มีผลกระทบต่อข้อสรุปของการวิจัย (Confounding Variable) หมายถึง ตัวแปรที่มีผลกระทบต่อการสรุปความเป็นสาเหตุของตัวแปรต้นที่มีต่อตัวแปรตาม จำแนกเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ 1) ตัวแปรแทรกซ้อน (Extraneous Variable) เป็นตัวแปรที่มีผลต่อตัวแปรตามเช่นเดียวกับตัวแปรอิสระ แต่เป็นสิ่งที่ผู้วิจัยไม่ได้สนใจที่จะศึกษา ดังนั้นจึงต้องมีการควบคุม ไม่เช่นนั้นตัวแปรแทรกซ้อนอาจทำให้ผลที่ศึกษาไม่ได้ข้อสรุปอย่างที่สรุปไว้ ก็ได้ ทำให้ผลที่ได้คาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง 2) ตัวแปรสอดแทรก (Intervening Variable) เป็นตัวแปรที่สอดแทรกอยู่ระหว่างตัวแปรต้นและตัวแปรตาม รู้ไว้ใช่ว่า… โดย ทั่วไปแล้ว การแยกตัวแปรอิสระออกจากตัวแปรตาม มีหลักง่าย ๆ ดังนี้ 1. ถ้าตัวแปรใดเกิดก่อน ให้ถือว่าตัวแปรนั้นเป็นตัวแปรอิสระ ส่วนตัวแปรที่เกิดภายหลังเรียกตัวแปรตาม เช่น เพศ กับ ระดับการศึกษาจะต้องถือว่า เพศ เป็นตัวแปรอิสระ (เพราะเกิดก่อน) ระดับการศึกษาเป็นตัวแปรตาม 2. ถ้าตัวแปรใดเป็นสาเหตุของอีกตัวแปรหนึ่ง ตัวแปรนั้นถือว่าเป็นตัวแปรอิสระ ส่วนตัวแปรที่เป็นผลนั้นถือว่าเป็นตัวแปรตาม ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม ในงานวิจัยและพัฒนา ใน งานวิจัยและพัฒนาทางการศึกษา ตัวแปรต้น (Independent Variable) คือ ตัวนวัตกรรมหรือปฏิบัติการ (Treatment) ที่นักวิจัยให้กับกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งอาจหมายถึง สื่อ/ ชุดสื่อ หรือวิธีการใหม่ๆ ในการจัดการศึกษา ส่วนตัวแปรตาม คือ ตัวแปรที่เป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการใส่ปฏิบัติการ เช่น ความรู้ ความพอใจ เจตคติ ทักษะ หรือสภาพการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เป็นต้น สรุปตัวแปรใน R&D -ในงานวิจัย R&D ไม่นิยมเขียนตัวแปรแยก ตัวแปรต้น กับตัวแปรตาม -จะเขียนตัวแปรไปตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย -ไม่ระบุว่ามีตัวแปรกี่ตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการรีวิวในบทที่ 2 5.กรอบแนวความคิดในการวิจัย (Conceptual Framework) การ นำเสนอภาพรวมๆ ของงานวิจัยที่ผู้วิจัยจะทำโดยกำหนดออกมาให้เห็นรูปธรรมชัดเจน จากการศึกษาวิเคราะห์เอกสารตำรา ทฤษฎี ตลอดจนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องอย่างครอบคลุม แล้วนำเสนอหรือสรุปเป็นภาพรวมให้ชัดเจนให้ง่ายต่อความเข้าใจในปัญหาและวิธี การวิจัยเป็นกรอบของการวิจัย ด้านเนื้อหาสาระ ประกอบด้วย ตัวแปร และการระบุความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร การเสนอกรอบแนวความคิด สามารถทำได้ 3 รูปแบบ คือ 1....
โดย admin | Jun 14, 2015 | บทความ
หนึ่ง ในผู้ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพตนเอง ถูกใจในผลิตภัณฑ์ธรรมชาติปลอดสารเคมี จากการค้นคว้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับ ม.เกษตร ผ่านการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อุดมด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่พอเหมาะแถมยังช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดไขมัน ควบคุมระดับน้ำตาล เร่งการเผาผลาญ ให้สุขภาพดี Fit & Firm กับ KuuNe F&F ยินดีและขอบคุณกับคุณลูกค้าที่ต้งใจจริงที่จะลดไขมันส่วนเกินทุกท่านครับ www.ptpfoods.comwww.facebook.com/kuunepage Line id : OatEcho Mobile : 0867917007 #KuuNeF&F #คูเน่เอฟแอนด์เอฟ #Fit&Firm #ฟิตแอนด์เฟิร์ม #F&F #เอฟแอนด์เอฟ #ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร #ควบคุมน้ำหนัก #ลดไขมัน #ควบคุมระดับน้ำตาล #เร่งการเผาผลาญ #แร่ธาตุและวิตามิน #ปลอดสารเคมี...
โดย admin | Jun 14, 2015 | บทความ
ประสบการณ์มหัศจรรย์คืออะไร? และจะทำให้ชีวิตคนเราดีขึ้นได้อย่างไร? ประสบการณ์ที่ว่านิ้ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นการผจญภัยครั้งใหญ่ เช่นการไต่เขา หรือการล่องคลื่นในแม่น้ำ ยก ตัวอย่าง Polett Villalta นักสร้างเว็บไซต์วัย 39 ปี ในรัฐ Florida ซึ่งเป็นอัมพาตตั้งแต่อกไปลงไปถึงเท้า เมื่ออายุ 12 ขวบ แต่เธอเป็นนักดำน้ำ Scuba ที่ใช้เวลาว่าง ออกดำน้ำกับเพื่อนๆ และเล่าถึงประสบการณ์ใต้ท้องทะเล เมื่อเธอสัมผัสกับทรายที่พื้นทะเล และได้เห็นปลาต่างๆ เธอบอกว่า ในขณะนั้น เธอลืมเรื่องอื่นๆทั้งหมด นัก วิจัยให้คำอธิบายประสบการณ์มหัศจรรย์อย่างนี้ว่า เป็นประสบการณ์ที่ก่อให้เกิดความรู้สึกตอบสนองต่อบางสิ่งบางอย่างที่ยิ่ง ใหญ่ มโหฬาร ท้าทาย และขยายวิถีทางการมองโลกของเราได้ และ ว่าความรู้สึกเช่นนี้ อาจเกิดขึ้นเมื่อเราได้เห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ หรืออาจเป็นประสบการณ์ทางศาสนา การได้ฟังคอนเสิร์ต การร่วมชุมนุมทางการเมืองหรือการแข่งขันกีฬาก็ได้ และก็มีคุณพ่อหลายรายที่เล่าถึงความรู้สึกจากประสบการณ์ที่ได้เห็นลูกเกิด นัก วิจัยเชื่อว่า ประสบการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความบันดาลใจ ช่วยให้สุขภาพของเราดีขึ้น และปรับความสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัว เพราะประสบการณ์ที่ว่านี้ ทำให้เราเห็นใจเพื่อนมนุษย์และสนใจการคบค้าสมาคมมากขึ้น มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มากขึ้น ในขณะที่รู้จักมีความอ่อนน้อมถ่อมตน ความ รู้สึกเช่นนี้ยังเป็นผลดีต่อร่างกายได้ด้วย ห้องแล็บที่ศึกษาการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของศาสตราจารย์ Dacher Keltner ที่มหาวิทยาลัย California วิทยาเขต Berkeley รายงานว่า ผลของการทดลองกับนักศึกษาปริญญาตรี 119 คน พบว่านักศึกษาที่มีประสบการณ์ดังกล่าว มีเครื่องหมายระบุอาการอักเสบในเสมหะต่ำกว่าใครเพื่อน การมีอาการอักเสบสูงในร่างกายเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกอาการของโรคเศร้าซึม ที่มา : http://www.voathai.com/content/awesome-experience-nm/2657878.html...