มือถือ: 063 516 6296 โทร: 0 2956 6118 โทรสาร: 0 2956 6117 komcharne@gmail.com
งานวิจัยชี้บนเครื่องบินคือแหล่งสะสมเชื้อโรคมากมายหลายชนิด พร้อมแนะวิธีป้องกัน

งานวิจัยชี้บนเครื่องบินคือแหล่งสะสมเชื้อโรคมากมายหลายชนิด พร้อมแนะวิธีป้องกัน

รายงานชี้ว่ากระเป๋าเดินทางแต่ละใบสามารถสัมผัสกับแบคทีเรียได้มากถึง 80 ล้านตัวก่อนจะถึงจุดหมายปลายทางใคร เดินทางด้วยเครื่องบินบ่อยๆ แล้วพบว่าตนเองมักป่วยเป็นหวัด คดจมูก น้ำมูกไหล นั่นอาจไม่ใช่เพราะอากาศที่เปลี่ยนไปในแต่ละประเทศ แต่อาจเกิดจากเชื้อโรคที่ปะปนในเครื่องบินที่โดยสารไป   รายงาน ของบริษัท Aquaint ผู้ผลิตแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค ระบุว่ายานพาหานะขนส่งมวลชนคือแหล่งรวบรวมเชื้อโรคมากมายหลายชนิด รวมทั้งตามเครื่องบินและสนามบินต่างๆ โดยแหล่งที่มาของแบคทีเรียหรือเชื้อโรคคือกระเป๋าเดินทาง รายงานชี้ว่า กระเป๋าเดินทางแต่ละใบสามารถสัมผัสกับแบคทีเรียได้มากถึง 80 ล้านตัวก่อนจะถึงจุดหมายปลายทาง รายงาน การศึกษาอีกชิ้นหนึ่งก่อนหน้านี้ของ Today Show ระบุเช่นกันว่า เชื้อโรคหลายชนิด เช่น ไวรัสไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ อี-คอไล หรือโรคติดต่อร้ายแรงอย่าง MRSA ต่างพบอยู่ตามสนามบินและบนเครื่องบินหลายลำ นอกจากนี้ ธนบัตรต่างๆจากหลายประเทศที่และเปลี่ยนตามสนามบิน ก็มีเชื้อโรคหลายล้านตัวปะปนอยู่เช่นกัน รายงานของ Aquaint แนะนำ 4 วิธีในการป้องกันเชื้อโรคบนเครื่องบิน วิธี แรกคือให้พยายามทำความสะอาดสิ่งของทุกชิ้นที่ใช้บนเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็นถาดอาหาร ที่วางแขน หรือเข็มขัดนิรภัย รวมทั้งทำความสะอาดมือของตนเองบ่อยๆ วี ธีที่สอง ให้นำหมอนหรือผ้าห่มขึ้นเครื่องไปด้วย เนื่องจากหมอนและผ้าห่มบนเครื่องบินไม่ได้ซักกันบ่อยๆ จึงผ่านผู้โดยสารมาหลายคนก่อนมาถึงคุณ วิธีที่สาม พยายามอย่าเดินไปไหนมาไหนบนเครื่องบินด้วยเท้าเปล่า เพราะพรมและพื้นเครื่องบินนั้นเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก วิธี ที่สี่ พยายามดื่มน้ำบ่อยๆอย่าให้ขาดน้ำจนปากแห้ง ผิวแห้ง เพราะรายงานของ Mayo Clinic บอกไว้ว่าอาการขาดน้ำนั้นทำให้ร่างกายเรารับเชื้อโรคได้ง่ายขึ้น นอก จากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้ใช้สเปรย์ฉีดจมูกบ่อยๆ เพื่อให้โพรงจมูกและลำคอมีของเหลวหล่อลื่นอยู่เสมอ ช่วยป้องกันแบคทีเรียได้อีกทางหนึ่ง ที่มา...
งานประชุมวิชาการนักกำหนดอาหาร 27 – 28 เมษายน 2558

งานประชุมวิชาการนักกำหนดอาหาร 27 – 28 เมษายน 2558

อาหารบำบัดโรค เมนูวันนี้ คัดสรรที่คุณค่าด้วยโภชนาการที่เหมาะสม     งาน ประชุมวิชาการนักกำหนดอาหาร 27 – 28 เมษายน 2558 โภชนากรประจำโรงพยาบาลทั่วประเทศเข้าร่วม จัดโดย ผศ.ดร. ชนิดา ปโชติการ นายกสมาคม ซึ่งคุณพัชรวีร์ ทันละกิจ เลขานุการเป็นประสานงาน ให้การสนับสนุนสื่อประชาสัมพันธ์ Kuu Ne คูเน่ นวัตกรรมผงปรุงครบรสเพื่อสุขภาพโซเดียมต่ำปลอดสารเคมีธรรมชาติ100% แทนผงชูรสและน้ำสต๊อก(น้ำซุป) เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารประจำครัวโรงพยาบาล  บริษัท ปกธนพัฒน์ จำกัด ขอขอบพระคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ www.ptpfoods.com www.facebook.com/kuunepage Line id : OatEcho Line@WFK7799W คมชาญ 0867917007           Kuu Ne ได้รับการสนับสนุนจาก รพ.ราชวิถี โดยคุณลาวัลย์ หัวหน้าฝ่ายโภชนาการ เป็น รพ.นำร่อง ต้นแบบ อาหารสุขภาพ ผลิตอาหารให้ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์บริโภค ตามวิสัยทัศน์ อาหารดีมีคุณภาพ วิชาการเป็นเลิศ เกิดสุขในองค์กร ได้จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการให้กับโภชนาการประจำโรงพยาบาลทั่วประเทศ ได้เพิ่มพูนความรู้ ทักษะ สู่ภาคปฏิบัติจริง โดยมีผลิตภัณฑ์ คูเน่ ผงปรุงครบรสเพื่อสุขภาพ โซเดียมต่ำปลอดสารเคมีธรรมชาติ100% เป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารด้วย  ขอขอบพระคุณทุกท่านมาก ณ โอกาสนี้   โภชนากร โรงพยาบาล สามารถสั่งซื้อ Kuu Ne / Kuu Chef ได้นะ อยู่ในทะเบียนบัญชีรายชื่อวัตถุดิบในการประกอบอาหารของ กรมการแพทย์ และสำนักการแพทย์แล้วติดต่อได้ที่ คุณคมชาญ เอกเตชวุฒิ 0867917007 บริษัท ปกธนพัฒน์ จำกัด www.ptpfoods.comwww.facebook.com/kuunepageLine id :...
นักพัฒนาพันธุ์พืชในสหรัฐกำลังปรับปรุงให้ผักมีรสชาดดีขึ้นและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงขึ้น

นักพัฒนาพันธุ์พืชในสหรัฐกำลังปรับปรุงให้ผักมีรสชาดดีขึ้นและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงขึ้น

นักพัฒนาพันธุ์พืชในสหรัฐกำลังปรับปรุงให้ผักมีรสชาดดีขึ้นและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงขึ้น   ผู้ บริโภคในสหรัฐต่างได้รับประโยชน์ด้านความสะดวกและราคาที่ถูกลงจากบรรดาร้าน ขายของชำระดับนานาชาติที่แข่งกันเปิดบริการและการนำเข้าผักผลไม้หลากหลาย ชนิดทำให้มีวางขายเกือบตลอดทั้งปี แต่ก็มีข้อด้อยเช่นกัน นั่นก็คือผลไม้อาจยังดิบอยู่หรือขาดรสชาด    คุณ Mace เป็นกุ๊กประจำร้านอาหารที่มีระดับใรรัฐโอเรกอน เขาบอกว่าลูกค้าทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ล้วนแต่อยากรับประทานผักที่มีรสชาดดี และเป็นรสชาดตามธรรมชาติ   คุณ Mace บอกว่าในช่วงเดือนนี้ ลูกค้าที่มารับประทานอาหารที่ร้านจะเริ่มสังเกตุเห็นว่า ทางร้านเริ่มปรับประเภทของผักที่ใช้ปรุงอาหารจากผักฤดูหนาวเป็นผักในฤดู ใบไม้ผลิ และในระยะยาว เขาหวังว่าจะมีการปรับเปลี่ยนอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นก็มีการพัฒนาให้ผักมีรสชาดดีกว่าเดิม โดยเฉพาะมะเขือยาว อยากให้มีการพัฒนามะเขือยาวให้มีเปลือกที่บางลง นิ่มน่ากินมากขึ้นแทนที่จะมีเปลือกที่หนาและเหนียว คุณ Mace เป็นกุ๊กคนหนึ่งที่เข้าร่วมในโครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาผักให้มีรสชาดดี ขึ้น (the Culinary Breeding Network) ที่ตั้งขึ้นโดยมหาวิทยาลัย Oregon State University โครงการนี้ระดมความคิดจากผู้พัฒนาพันธุ์พืช ชาวนา กุ๊กและผู้พัฒนาเมล็ดพืชจากทั่วสหรัฐเพื่อหาทางพัฒนาผักชนิดต่างๆ ให้มีรสชาดดีขึ้นและให้วิตามินมากขึ้น คุณ Jim Myers ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาพันธุ์พืชที่มหาวิทยาลัยกล่าวว่าโครงการนี้ไม่ใช้วิธีการทางพันธุวิศวกรรมแต่อย่างใด แต่ใช้วิธีปรับปรุงพันธุ์ผักด้วยวิธีการผสมพันธุ์แบบดั้งเดิมและทางทีมงานมีพันธุ์พืชหลากหลายมากให้เลือกพัฒนา เจ้า หน้าที่พัฒนาพันธุ์พืชในห้องแลปของคุณ Myers ทำการผสมเกสรของพืชข้ามสายพันธุ์กันเพื่อให้ได้ลักษณะเด่นตามต้องการ ในเรือนเพาะชำ บรรดานักวิจัยทำการผสมเกสรข้ามสายพันธุ์ผักบล็อคโคลี่และถั่ว pole beans สำหรับพืชบางชนิดในเรือนเพาะชำ นักวิจัยต้องพันเทปปิดช่อดอกเอาไว้หลังทำการผสมเกสรข้ามสายพันธุ์เพื่อ ป้องกันไม่ให้มีละอองเกสรของสายพันธุ์อื่นๆ ที่ไม่ต้องการเข้าไปปะปนในช่อดอกและทำการติดป้ายระบุรายละเอียดของสายพันธุ์ ต่างๆ ของผักบล็อกโคลี่ที่นำไปผสมกัน จุดประสงค์หลักของโครงการนี้คือมุ่งเลือกเอาพันธุ์ผักที่ออกมาดีที่สุดไปปลูกเพื่อการค้า ทางมหาวิทยาลัย Oregon State University ได้นำมะเขือเทศพันธุ์ใหม่หลายพันธุ์ออกมาวางตลาดแล้วที่ผลมะเขือเทศมีสีม่วง เข้มและมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าเดิม คุณ Myers กล่าวว่าทางโครงการเตรียมที่จะนำพริกหยวกฮาบาเนโร่ (habanero) ที่เผ็ดน้อยออกวางตลาดเป็นตัวต่อไป และเมื่อเร็วๆ นี้ คุณ Myers และทีมนักวิจัยได้ทำการทดลองชิมพริกฮาบาเนโร่ดองหลากหลายสีที่พวกเขาเพาะ พันธุ์ขึ้นมาเองในเรือนเพาะชำ  คุณ Phil Simon นักพัฒนาพันธุ์ผักประจำหน่วยงานวิจัยทางการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐที่รัฐ วิสคอนซิน เขาทำการพัฒนาพันธุ์แครอทให้ดีขึ้นมานาน 35 ปีแล้ว เขากล่าว ว่าผู้บริโภคท้องถิ่นที่ต้องการผักที่มีคุณภาพหันมาซื้อผักที่ปลูกในท้อง ถิ่นกันมากขึ้นส่งผลให้ชาวนาในท้องถิ่นเริ่มเสาะหาพันธุ์พืชและผักที่หลาก หลายมากขึ้นมาปลูกเพื่อรองรับกับความต้องการของผู้บริโภคเหล่านี้  ที่มา...
ยาต้านฮิสตามีนแก้อาการแพ้ใช้บำบัดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีได้ผลและราคาถูก

ยาต้านฮิสตามีนแก้อาการแพ้ใช้บำบัดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีได้ผลและราคาถูก

ยาต้านฮิสตามีนแก้อาการแพ้ใช้บำบัดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีได้ผลและราคาถูก ทีมนักวิจัยอเมริกันค้นพบว่ายาต้านฮิสตามีนสามารถบำบัดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีได้ผลดี     ยาคลอร์ไซคลิซีน (Chlorcyclizine HCL) เป็นยาต้านฮิสตามีนที่คิดค้นขึ้นราว 50 ปีที่แล้ว เพื่อใช้บำบัดอาการแพ้  แต่ ทีมนักวิจัยที่ U.S. National Institute of Health แห่งสหรัฐได้ค้นพบว่ายาแก้แพ้ชนิดนี้และยาที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกันอาจจะ มีประสิทธิภาพในการบำบัดการติดเชื้อไวรัสตับอับเสบชนิดซีได้ผลดี ยาคลอร์ไซคลิซีนและยาในกลุ่มเดียวกัน บำบัดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีได้ด้วยการบล็อกเชื้อไวรัสไม่ให้เข้าไปก่อให้เกิดการติดเชื้อในเซลล์  คุณ Jake Liang ผู้อำนวยการฝ่ายโรคตับที่สถาบันโรคเบาหวาน โรคในระบบย่อยอาหารและโรคไตแห่งชาติ (NIH’s National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases) ที่ ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงวอชิงตัน กล่าวว่าในช่วงของการติดเชื้อ เชื้อไวรัสตับอักเสบซีจะแพร่เข้าไปในเซลล์ตัวใหม่ๆ ตลอดเวลา ทีมนักวิจัยคิดว่าหากป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าไปติดเชื้อในเซลล์ตัวใหม่ๆ หรือทำลายขั้นตอนการติดเชื้อได้สำเร็จ เซลล์ที่ติดเชื้อแล้วจะตายลงและไม่แพร่เชื้อต่อแก่เซลล์ข้างเคียง  เชื้อ ไวรัสตับอักเสบซี ติดต่อทางเพศสัมพันธ์และติดต่อผ่านทางเลือดที่ติดเชื้อ และการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีอาจจะเป็นสาเหตุของอาการตับล้มเหลว มะเร็งตับและอาการตับแข็ง มีคนหลายล้านคนทั่วโลกที่เป็นพาหะของโรคนี้และเจ็บป่วยจากการติดเชื้อโรคนี้ คุณ Liang เน้นว่าปัจจุบันมีการบำบัดที่มีประสิทธิภาพหลายวิธีด้วยกัน แต่ยาต่างๆ ที่ใช้ในการรักษามีราคาแพงมาก มีอาการข้างเคียงของยาและเชื้อโรคเริ่มต่อต้านยาที่ใช้รักษา นอกจากนี้ยาบำบัดเหล่านี้ยังใช้ได้กับเชื้อไวรัสตับอักเสบซีสายพันธุ์ HP เท่านั้น นี่ทำให้มีความจำเป็นอย่างมากในการพัฒนาวิธีบำบัดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี ค่า บำบัดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีที่ใช้ในปัจจุบันอยู่ที่ราว 84,000 ดอลล่าร์สหรัฐสำหรับการบำบัดที่นาน 12 สัปดาห์ ซึ่งแพงมากเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยยาคลอร์ไซคลิซีนที่ราคาเพียงเม็ดละ 50 เซ็นท์สหรัฐฯหรือราว 15 บาทเท่านั้น ในขั้นต่อไป ทีมนักวิจัยวางแผนที่จะกำหนดให้ได้ว่าจะต้องใช้ยา คลอร์ไซคลิซีนในปริมาณเท่าใดในการบำบัดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี    ผลการวิจัยนี้ตีพิมพ์ในวารสาร Science Translational Medicine ที่มา...
อ้วนอันตราย ลดด้วย 3 อ. ทางเลือกทางรอดของชีวิตที่ยืนยาว ด้วยโภชนาการ

อ้วนอันตราย ลดด้วย 3 อ. ทางเลือกทางรอดของชีวิตที่ยืนยาว ด้วยโภชนาการ

อ้วนอันตราย ลดด้วย 3 อ.   อ.สง่า ดามาพงษ์ R.S., MCN. นวักวิชาการสาธารณสุขเชียวชาญ (ด้านโภชนาการ) กรมอนามัย ผู้จัดการแผนอาหาร สสส. อุปนายกสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย โฆษกกระทรวงสาธารณสุข     คนต้นแบบ 3 อ. ต่อไปนีี้ ลดอ้วนลดพุงได้เพราะ…………….. หัวใจเต็มร้อยตระหนักรูู้ว่าอ้วนอันตรายรูู้ว่าอ้วนเกิดจากตัวเองไม่มีใครจะช่วยลดน้ำหนักได้ดีเท่าตัวเอง คนอ้วนเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงเป็น 2.9 เท่าของคนปกติเบาหว่าน 4 เท่าของคนปกติสมองเสื่อมเพิ่มเป็น 36%ไขมัน Cholesterol, LDL & Triglyceride สูงหยุดหายใจขณะหลับ Sleep apnoea 10%เข่า ข้อ เสื่อม โรคแทรกซ้อนหัวใจหลอดเลือดเสี่ยงเสียชีวิตสูงสุด     รู้อย่างไรว่าอ้วนลงพุงผู้หญิงรอบเอวเกิน 80 cm. (32″)ผู้ชายรอบเอวเกิน 90 cm. (36″)ความดันโลหิต > 130 / 85 มม.น้ำตาลในเลือด > 100 มก./ดล.ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ > 150 มก./ดล.ชาย HDL < 40   หญิง HDL < 50 ภารกิจ พิชิตอ้วน พิชิตพุง 3 อ.อ.1  อาหารอ.2  ออกกำลังกายอ.3  อารมณ์ และภาระกิจ 3 ม.ม.1  ไม่กินข้าวแห้งมากม.2  ไม่กินหวาน มันมากม.3  ไม่กินจุบจิบ และไม่ดื่มน้ำอัดลม     เน้นกิน ต้ม ย่าง ยำ นึ่ง ผักและผลไม้  จะสำเร็จได้ด้วยจิตที่เข้มแข็ง หยุดข้ออ้างเข้าข้างตัวเอง มีความหวังกำลังใจ อดทนมุ่งมั่น เคร่งครัด และที่สำคัญควบคุมอารมณ์ให้ได้ คืนชีวิตใหม่  สุข สดใส ให้ตัวเองซึ่งใช้เวลาพอสมควรอย่าท้อ สำหรับคนที่ค่อนข้างอ้วนจะใช้เวลา 8 เดือนขึ้นไป คนที่อ้วนมากใช้เวลาเป็นปี และคนที่เป็นโรคอ้วนใช้เวลากว่า 2 ปี (แนะนำให้ปรึกษาแพทย์) จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีปณิธานมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าทีเดียว  จะช่วยให้ร่างกายปรับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในทางที่ดีขึ้นตั้งแต่กระบวน การย่อยอาหารถึงการเผาผลาญ กระทั่งไร้พุงในที่สุด  www.person.ku.ac.th/training/training/2556/…/PP3.pdf   หากว่าต้องการตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนักภายใต้ภารกิจ 3 อ. และ 3 ม. ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ เสริม อาหารควบคุมน้ำหนัก ลดไขมัน ควบคุมระดับน้ำตาล เร่งการเผาผลาญ Kuu Ne F&F       คูเน่ เอฟแอนด์เอฟ  ผลิตจากพืชธรรมชาติ ปลอดสารเคมี อุดมด้วยแร่ธาตุวิตามิน 8 ชนิด ผลงานค้นคว้าพัฒนาแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร คณะอุตสาหกรรมอาหาร ม.เกษตรศาสตร์ ในการเสริมอาหารควบคู่ไปด้วย มีส่วนช่วยให้ไปสู่เป้าหมายของการลดพุงได้เร็วขึ้น ที่สำคัญต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและมีสติยับยั้งไม่ตามใจตัวเอง ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน Kuu Ne F&F  คูเน่ เอฟแอนด์เอฟ   http://www.ptpfoods.com/2014/10/kuu-ne-f.html     #คูเน่เอฟแอนด์เอฟ #ฟิตแอนด์เฟิร์ม #KuuNeF&F #KuuNeFit&Firm #เอฟแอนด์เอฟ #F&F #ควบคุมน้ำหนัก  #ลดไขมัน #ควบคุมระดับน้ำตาล #เร่งการเผาผลาญ #แร่ธาตุและวิตามิน       ...
Page 4 of 9« First...23456...Last »